ทำไมจึงจำเป็นต้องลบข้อมูล PCIe SSDs ?

ทำไมจึงจำเป็นต้องลบข้อมูล PCIe SSDs ?

จากการใช้งานที่เพิ่มขึ้นของ PCIe SSD ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ใช้เพื่อเก็บข้อมูลได้นําประสบการณ์ความเร็วสูงแบบใหม่มาใช้ ทําให้บริษัทต่างๆ สามารถเลือก M.2 NVMe SSD เป็นหนึ่งในอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลของพวกเขา โดย PCIe SSD อาจได้รับความเสียหายจากการใช้งาน, การแทก และข้อมูลได้รับความเสียหาย ผลจากการใช้งานตลอด 24 ชั่วโมง 7 วัน อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลดังกล่าวจะเริ่มเก่าและเกิดความเสียหายได้ มีความจําเป็นต้องเปลี่ยน SSD HDD ด้วย HDD ใหม่สําหรับการถ่ายโอนข้อมูลและการสํารองข้อมูล

 

 

มีกฎระเบียบที่ชัดเจนในหลายประเทศ ที่กําหนดให้บริษัทต่างๆ ต้องปกป้องข้อมูลของผู้ใช้ด้วยความถูกต้อง เช่น พระราชบัญญัติความเป็นส่วนตัวของผู้บริโภคในแคลิฟอร์เนีย 2018 (CCPA) และระเบียบการคุ้มครองข้อมูลทั่วไปของสหภาพยุโรป (GDPR)ซึ่งอาจส่งผลให้มีบทลงโทษ หรือคดีความหากข้อมูล HDD รั่วไหลหรือถูกกําจัดอย่างไม่ถูกต้อง มีหลายวิธีในการลบข้อมูลใน HDD รวมไปถึงการทําลายทางกายภาพ, การทำลายข้อมูลใน HDD ด้วยสนามแม่เหล็ก และการลบ และการลบข้อมูลนั้นสามารถแบ่งออกได้เป็นการใช้ซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์เพื่อทำการลบข้อมูล และใช้เครื่องลบข้อมูล ในอดีตอาจมีความเสี่ยงที่จะเป็นไวรัสต่อคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่อ ในขณะที่ยุคต่อมาเป็นเครื่องลบข้อมูลแบบสแตนด์อโลน ซึ่งใช้งานค่อนข้างง่ายและหลีกเลี่ยงความเสี่ยงของการติดไวรัสและการรั่วไหลของข้อมูล

 

 

 

เครื่อง Ureach รุ่น PE600 รองรับความเร็วในการลบข้อมูลขนาด 24GB ต่อนาที ได้รับการรับรองจาก SGS สวิตเซอร์แลนด์ และสามารถลบข้อมูลยนอุปกรณ์ได้ครั้งละ 6 เครื่อง มีมาตรฐานการลบข้อมูล 12 ประเภท ได้แก่:

 

  1. การลบข้อมูลแบบด่วน : เป็นการลบเฉพาะตารางดัชนีของ HDD ใช้เวลาไม่นานในการลบ แต่มีระดับความปลอดภัยต่ำ
  2. การลบข้อมูลแบบทั้งหมด : เป็นการลบแบบเขียนทับด้วย 00 เพื่อลบข้อมูลใน HDD ทั้งหมดรวมไปถึงพื้นที่ว่าง
  3. การลบข้อมูลแบบ DoD : เป็นการลบจำนวน 3 ครั้ง เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรฐาน DoD5220.22 ของสหรัฐอเมริกา ซึ่งจะไม่สามารถกู้คืนข้อมูลได้
  4. การลบข้อมูลอย่างปลอดภัย : ตัว HDD จะลบข้อมูลด้วยตัวเองเพื่อล้างข้อมูลทั้งหมด ซึ่งจะไม่สามารถกู้คืนข้อมูลได้
  5. การลบข้อมูลในระดับความปลอดภัยที่สูงขึ้น : การลบอย่างปลอดภัยในขั้นสูง ซึ่งจะไม่สามารถกู้คืนข้อมูลได้
  6. การลบข้อมูลแบบ 7 ครั้ง : ใช้เวลาในการลบข้อมูลนาน และข้อมูลจะไม่สามารถกู้คืนได้หลังจากเขียนทับ 7 ครั้งตามมาตรฐาน 5220.22 ของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ
  7. การลบข้อมูลแบบ CSEC : ปฏิบัติตามมาตรฐาน CSEC ของแคนาดา จะทำการเขียนทับแบบบิตต่อบิต จำนวน 3 ครั้ง และข้อมูลจะไม่สามารถกู้คืนได้
  8. การลบข้อมูลแบบ HMG : ปฏิบัติตามมาตรฐาน British HMG เพื่อเขียนทับ 3 ครั้ง และข้อมูลจะไม่สามารถกู้คืนข้อมูลได้
  9. การลบข้อมูลแบบ VSITR : ตามมาตรฐาน VSITR ของเยอรมัน ข้อมูลจะไม่สามารถกู้คืนได้ โดยการลบการเขียนทับถึง 3 ครั้ง
  10. การลบข้อมูลแบบ NSA : ปฏิบัติตามมาตรฐานการลบข้อมูลของ NSA-130-2 ในสหรัฐอเมริกา หลังจากทำการเขียนทับ 3 ครั้งแล้ว จะไม่สามารถกู้คืนข้อมูลได้
  11. การลบข้อมูลแบบ China BMB21-2007 : ปฏิบัติตามมาตรฐาน BMB21-2007 เพื่อดำเนินการเขียนทับ 6 ครั้ง และข้อมูลไม่สามารถกู้คืนได้
  12. การลบข้อมูลแบบ U.S. AR380-19 : ปฏิบัติตามมาตรฐาน AR380-19 ของกองทัพสหรัฐฯ หลังจากลบข้อมูลครบ 3 ครั้งแล้ว จะไม่สามารถกู้คืนข้อมูลได้

 

นอกจากนี้ยังสามารถปรับแต่งจํานวนการเขียนทับเพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานขององค์กร และเพื่อรองรับการลบข้อมูลหลายอินเทอร์เฟซ (เช่น U.2, NGFF, mSATA เป็นต้น) ผ่านบอร์ด adaptor และมีรายงานบันทึกช่วยให้ผู้ตรวจสอบขององค์กรเข้าถึงได้ง่ายขึ้น

 

 

ฟังก์ชั่นการลบข้อมูลแบบปลอดภัย (Secure Erase), จะเป็นไปตามมาตรฐาน NIST -800-88และเป็นที่นิยมที่สุดในตลาด ซึ่งใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาทีในการลบข้อมูลใน SSD (ความเร็วในการโอนถ่ายข้อมูลอาจแตกต่างกันไปตามอุปกรณ์) ในขณะที่ความเร็วของการลบข้อมูลแบบปอลดภัยจะช้ากว่า HDD แบบทั่วไป การลบข้อมูลแบบปลอดภัยเป็นกระบวนการในการลบแบบ LBA (Logical Block Address) ของ HDD เพื่อไม่ให้ข้อมูลถูกกู้คืนได้ ระหว่างกระบวนการลบข้อมูลหากไม่ได้เชื่อมต่อหรือถอดปลั๊ก ไดรฟ์จะล็อกโดยอัตโนมัติเพื่อป้องกันข้อมูลในอุปกรณ์รั่วไหล สิ่งที่สำคัญ คือ ต้องทราบว่า HDD ดังกล่าวรองรับฟังก์ชั่นการลบข้อมูลแบบปลอดภัย (Secure Erase)

 

เชื่อกันว่าสัดส่วนการใช้งานของ PCIe SSD ตามองค์กรจะค่อยๆ เพิ่มขึ้นในอนาคต เพื่อความปลอดภัยของข้อมูลขององค์กรให้เพิ่มมากขึ้น เครื่องลบข้อมูลของ UReach รุ่น PCIe อาจเป็นผู้ช่วยที่องค์กรนั้นขาดไม่ได้

For further information about us, please visit

U-Reach

JetMedia


แสดงความคิดเห็น